วิทยานิพนธ์ คืออะไร?
ความหมายและความสําคัญของวิทยานิพนธ์ วิทยานิพนธ์ (Thesis หรือ Dissertation) หมายถึง เรื่องที่เรียบเรียงขึ้นจากการศึกษาค้นคว้าวิจัยอย่างละเอียดและรอบคอบ โดยวิธีใดวิธีหนึ่งตามแบบแผนและลําดับขั้นตอนของวิธีการวิจัยนั้น ๆ ประกอบด้วยความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอย่างมีเหตุผลและมีหลักเกณฑ์ โดยมุ่งให้ผู้ทําวิทยานิพนธ์รู้จักวิธีการศึกษาค้นคว้าอย่างมีเหตุผล มีระบบและสามารถรายงานผลของการศึกษาได้โดยใช้ภาษาที่ถูกต้องและรัดกุม เป็นการทําวิจัยเพื่อเสนอรับปริญญา ความสําคัญของการทําวิทยานิพนธ์มีหลายประการ ดังนี้ 1. ทําให้เกิดองค์ความรู้ใหม่และข้อเท็จจริงใหม่ ๆ ทั้งในด้านทฤษฎี และด้าน ปฏิบัติ 2. ทําให้มีพัฒนาการทางวิชาการในสาขาวิชาต่าง ๆ 3. ช่วยให้ทราบข้อมูลที่แท้จริงรวมทั้งข้อบกพร่องเพื่อนํามาใช้แก้ปัญหาหรือ นํามาใช้พัฒนาการปฏิบัติงาน 4. ทําให้เกิดการรู้จักใช้ความคิดอย่างมีเหตุผล และสร้างทักษะในการแก้ไขปัญหา 5. เพิ่มพูนทักษะในการเขียนรายงานทางวิชาการ ซึ่งจะเป็ นพื้นฐานของ การสร้างสรรค์ผลงานวิชาการอื่น การทำวิทยานิพนธ์มี 2 ระดับ 1. ระดับดุษฎีบัณฑิต (ปริญญาเอก) เรียกว่า วิทยานิพนธ์ (Dissertation) โดย ผู้วิจัยได้ทำการทดลองค้นคว้าอย่างเป็นระบบ มีวิธีการกระทำที่ถูกต้องและลึกซึ้งตามหลักวิชาการ และมีข้อมูลซึ่งบ่งชัดเจนถึงสิ่งที่ได้ ค้นพบใหม่ ซึ่งอาจจะนำไปใช้ในการสร้างทฤษฎีใหม่ หรือนำไปประยุกต์ใช้ต่อไปได้ 2. ระดับมหาบัณฑิต (ปริญญาโท) ก็เรียกว่า วิทยานิพนธ์ (Thesis) แต่ ถ้าแปลอังกฤษแล้วจะเรียกคนละแบบ โดย ผู้วิจัยได้ทำการทดลองค้นคว้าและทำการวิจัยมาอย่างดีพอสมควร […]
5 ขั้นตอนเขียนวิทยานิพนธ์อย่างไรให้มีคุณภาพ !
วิทยานิพนธ์ หรือที่รู้จักกันดีว่า Thesis Paper หรือ Dissertation คือตัวชี้วัดความสำเร็จของนักเรียน นักศึกษาทั้งในระดับวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยในหลายๆ คณะ เรียกได้ว่าต้องทุ่มทั้งแรงกายและแรงใจให้กับรูปเล่มวิทยานิพนธ์นี้ โดยทั่วไปแล้ววิทยานิพนธ์ควรท้าทายคำถามทางปัญญา ในลักษณะโน้มน้าวใจ กระตุ้นให้เกิดการอภิปราย หรือโต้แย้งกับผู้อ่าน คำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยให้นักเรียน นักศึกษาให้เขียนวิทยานิพนธ์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ผู้อ่านและอาจารย์เข้าใจในหัวข้อของคุณ เคล็ดลับ 5 ขั้นตอน เขียนวิทยานิพนธ์อย่างไรให้มีคุณภาพ มีดังนี้ 1. ร่างคำชี้แจงวิทยานิพนธ์ (Thesis Statement) ส่วนนี้ถือเป็นส่วนสำคัญ เพราะ Thesis Statement คือการตั้งคำถามและใช้ชุดความรู้ที่เรียนมาทั้งหมด ทั้งหัวข้อที่เรียน หรือทฤษฎีที่ได้ปฏิบัติในหลักสูตร แล้วมาวิเคราะห์ว่าในท้ายที่สุดเกิดคำถามอะไรขึ้นบ้าง เช่น ความรู้ที่ได้รับเพียงพอหรือไม่? มีคำถามอะไรที่ยังไม่ได้รับคำตอบบ้าง? หรือมีข้อสงสัยอะไรอยู่ ก็สามารถนำมาตั้งเป็นหัวข้อวิทยานิพนธ์ได้ โดยเมื่อได้หัวข้อและคำถามที่ตอบโจทย์แล้วก็ควรอ่าน ค้นคว้าหาข้อมูล รวมถึงวิเคราะห์ วิจัยทุกอย่างที่สามารถทำได้เกี่ยวกับหัวข้อนี้ อาจขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ที่ปรึกษา หรืออาจารย์บรรณารักษ์ว่าข้อมูลใดเหมาะสมสำหรับสิ่งที่หาอยู่ นอกเหนือจากการค้นหาข้อมูลทางออนไลน์ การอ่านฐานข้อมูลทางวิชาการ วารสาร และหนังสือจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ในขั้นตอนนี้ ยิ่งรวบรวมข้อมูลได้มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งสร้างข้อโต้แย้งได้ง่าย และคำตอบของ Thesis Statement […]
5 เทคนิคที่ต้องรู้ ก่อนเริ่มเขียนบทนำงานวิจัย
การเขียนบทนำงานวิจัย หรือ บทที่ 1 ถือว่าเป็นส่วนที่ยากและท้าทายที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นบทแรกที่ผู้อ่านเข้าใจถึงความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาของหัวข้อเรื่องวิจัยที่ทำ ที่จะกล่าวถึงเหตุผลในการทำ คำถามและสมมุติฐานในงานวิจัย ขอบเขตของการวิจัย ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ และนิยามศัพท์ บทความนี้ เราจะแนะนำ 5 เทคนิคที่ต้องรู้ ก่อนเริ่มเขียนบทนำงานวิจัย เพื่อให้การทำงานวิจัยในบทที่ 1 สำเร็จได้โดยเร็ว 1. ที่มาและความสำคัญของปัญหา ส่วนแรกของบทนำ จะเป็นการกล่าวถึงที่มาและความสำคัญของปัญหา คือ การกล่าวถึงสภาพปัจจุบัน เป็นสภาพทั่วไปในสิ่งที่สนใจทำการศึกษาโดยรวมเป็นอย่างไรก่อนที่จะกล่าวถึงปัญหาและสาเหตุของปัญหาที่เกิด จากนั้นจะเป็นการระบุถึงแนวทางแก้ไขปัญหา และทำการสรุปที่มาและความสำคัญของปัญหา รวมถึงการกล่าวสรุปถึงวัตถุประสงค์ของการทำวิจัย 2. วัตถุประสงค์ของการทำวิจัย การเขียนวัตถุประสงค์ของการวิจัย เป็นการกล่าวถึงคำถามที่นำไปสู่คำตอบของปัญหาการวิจัยในหัวข้อเรื่องนั้นๆ ระบุหรือกำหนดประเด็นในการทำวิจัย เพราะถ้าหากคุณไม่มีระบุขอบเขตในการทำงานวิจัยให้ชัดเจน จำส่งผลต่อกระบวนการที่เหลือของงานวิจัยของคุณที่ทำให้เกิดความคาดเคลื่อนในการทำงาน และผลลัทพ์ของงสนวิจัยได้ 3. ขอบเขตของการทำวิจัย การกำหนดขอบเขตของการวิจัย กล่าวถึงสิ่งที่ผู้วิจัยกำหนดจำเพาะเจาะจง ว่าสิ่งใดต้องการทำและสิ่งใดที่ไม่ต้องการทำวิจัยในหัวข้อเรื่องนั้นๆ ที่เกี่ยวกับประเด็นหลักในหัวข้อเรื่องนั้นๆ ประชากรในการวิจัย พื้นที่ที่ใช้การวิจัย ระยะเวลาที่ทำการศึกษาวิจัย และตัวแปรที่ใช้ในการวิจัย เพื่อให้ผู้วิจัยและผู้อ่านเข้าใจถึงประเด็นปัญหาในการวิจัยได้มากยิ่งขึ้น 4. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ เขียนเรียบเรียงจากวัตถุประสงค์ของการวิจัย หรือขอบเขตของการทำวิจัยที่ได้ทำการศึกษาเพื่อเสนอแนวทางให้เห็นผลลัพธ์ของงานวิจัย และเป็นประโยชน์ที่ในการนำไปใช้ในการทำงาน 5. นิยามศัพท์เฉพาะ คำนิยามศัพท์เฉพาะ เพื่อสื่อสารคำและข้อความที่ใช้ในงานวิจัยในหัวข้อเรื่องนั้นๆเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องและตรงกัน ทำให้เกิดความชัดเจนในต่างๆช่องทางติดต่อ และนี่คือ 5 เทคนิคที่ต้องรู้ ก่อนเริ่มเขียนบทนำงานวิจัย ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้นะคะ แล้วคุณจะเขียนงานของคุณได้ง่ายขึ้นแน่นอนค่ะ Credit: https://bit.ly/3MLuLUF #เรียนวิจัย #รับติวสอบ #รับปรึกษางานวิจัย #ทำdissertation #ทำthesis #ทำวิทยานิพนธ์ #ทำวิทยานิพนธ์ปตรี #ทำวิทยานิพนธ์ปโท #ทำวิทยานิพนธ์ปเอก#สอนโปรแกรมSPSS #รับทำงานวิจัย #ที่ปรึกษางานวิจัย #รับทำดุษฎีนิพนธ์ #รับติววิทยานิพนธ์ #รับติวธีสิส #รับติวสารนิพนธ์ #รับติววิจัย #รับติวงานวิจัย #รับสอนวิทยานิพนธ์ #รับสอนธีสิส #รับสอนสารนิพนธ์ #รับสอนวิจัย #รับสอนงานวิจัย#รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ #รับปรึกษาธีสิส #รับปรึกษาสารนิพนธ์ #รับปรึกษาวิจัย#รับปรึกษางานวิจัย #รับติววิทยานิพนธ์ปตรี #รับติววิทยานิพนธ์ปโท #รับติววิทยานิพนธ์ปเอก #รับสอนวิทยานิพนธ์ปตรี #รับสอนวิทยานิพนธ์ปโท #รับสอนวิทยานิพนธ์ปเอก #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ปตรี #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ปโท #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ปเอก #สอนทำวิจัย ##รับสอนดุษฎีนิพนธ์ #รับติวดุษฎีนิพนธ์ #รับปรึกษาดุษฎีนิพนธ์ #ปรึกษาวิทยานิพนธ์ #ปรึกษาวิจัย #ปรึกษางานวิจัย #ทำวิจัยปโท #phdthesis #หัวข้อวิทยานิพนธ์ #รับทำdissertation #บริษัทรับทำวิจัย #รับเขียนบทความวิชาการ #thesiswriter #spssราคา #ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ #ทำวิจัยพยาบาล #รับปรึกษาวิจัย #ราคารับทำงานวิจัย
หลักการและขั้นตอนในการสร้างแบบสอบถามที่ดี
แบบสอบถาม เป็นรูปแบบของคำถามเป็นชุดๆที่ได้ถูกรวบรวมไว้อย่างมีหลักเกณฑ์และเป็นระบบเพื่อใช้วัดสิ่งที่ผู้วิจัยต้องการจะวัดจากกลุ่มตัวอย่างหรือประชากรเป้าหมายให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริง หลักการสร้างแบบสอบถาม 1. สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การวิจัย 2. ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เหมาะสมกับผู้ตอบ 3. ใช้ข้อความที่สั้น กะทัดรัด ได้ใจความ 4. แต่ละความถามควรมีนัย เพียงประเด็นเดียว 5. หลีกเลี่ยงการใช้ประโยคปฏิเสธซ้อน 6. ไม่ควรใช้คำย่อ 7. หลีกเลี่ยงการใช้คำที่เป็นนามธรรมมาก 8. ไม่ชี้นำการตอบให้เป็นไปแนวทางใดแนวทางหนึ่ง 9. หลีกเลี่ยงคำถามที่ทำให้ผู้ตอบเกิดความลำบากใจในการตอบ 10. คำตอบที่มีให้เลือกต้องชัดเจนและครอบคลุมคำตอบที่เป็นไปได้ 11. หลีกเลี่ยงคำที่สื่อความหมายหลายอย่าง 12. ไม่ควรเป็นแบบสอบถามที่มีจำนวนมากเกินไป ไม่ควรให้ผู้ตอบใช้เวลาในการตอบแบบสอบถามนานเกินไป 13. ข้อคำถามควรถามประเด็นที่เฉพาะเจาะจงตามเป้าหมายของการวิจัย 14. คำถามต้องน่าสนใจสามารถกระตุ้นให้เกิดความอยากตอบ ขั้นตอนการสร้างแบบสอบถาม 1. กำหนดวัตถุประสงค์ของการสร้างแบบสอบถาม 2. ระบุเนื้อหาหรือประเด็นหลักที่จะถามให้ครอบคลุมวัตถุประสงค์ที่จะประเมิน 3. กำหนดประเภทของคำถามโดยอาจจะเป็นคำถามปลายเปิดหรือปลายปิด 4. ร่างแบบสอบถาม โครงสร้างแบบสอบถามอาจแบ่งเป็น 3 ตอน คือ ตอนที่ 1 ข้อมูลเบื้องต้น/ข้อมูลทั่วไป ตอนที่ 2 ข้อมูลหลักเกี่ยวกับเรื่องที่จะถาม […]
5 เทคนิคในการสืบค้นข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
นักวิจัยหลายท่านมีปัญหาในการสืบค้นข้อมูลงานวิจัยเพื่อที่จะค้นหางานวิจัยที่เกี่ยวข้องมาประยุกต์ใช้กับการศึกษาวิจัยของตนเอง ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแจก 5 เทคนิคในการสืบค้นข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ว่าต้องทำแบบไหน อย่างไร เพื่อที่จะสำเร็จได้ง่าย และสามารถนำงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังกล่าวนั้นมาประยุกต์ใช้กับงานวิจัยของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด 1. ต้องสืบค้นจากตัวแปรที่ทำการศึกษาวิจัย การสืบค้นจากตัวแปรที่ทำการศึกษาวิจัยจะทำให้ท่านทราบว่าตัวแปรดังกล่าวนี้มีอยู่ในงานวิจัยที่เกี่ยวข้องชิ้นใดบ้าง เนื่องจากการกำหนดตัวแปรที่จะใช้ในการวิจัยนั้นมีอยู่ในกรอบแนวคิดการวิจัยอย่างชัดเจนอยู่แล้ว ท่านเพียงแต่นำข้อมูลตัวแปรที่กำหนดไว้ในกรอบแนวคิดของการวิจัยของท่านมาสืบค้นทีละตัวแปรเพื่อที่จะให้ได้งานวิจัยแต่ละชิ้นงานที่สอดคล้องกันจนครบทุกตัวแปร เพื่อที่จะหางานวิจัยที่เกี่ยวข้องมาสนับสนุนการศึกษาวิจัยตัวแปรดังกล่าวได้อย่างเพียงพอ 2. คำต้องกระชับและชัดเจน หลายครั้งที่มีการกำหนดชื่อตัวแปรที่ค่อนข้างยาวจึงทำให้เป็นปัญหาต่อการสืบค้นข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการจะสืบค้นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องท่านต้องคิดถึงประเด็นหลักหรือ Keyword ของตัวแปรดังกล่าว เช่น “ความต้องการต่อการพัฒนา” สามารถสรุปได้สั้นๆ ก็คือ “ความต้องการพัฒนา” ฉะนั้นท่านต้องแยกเป็น 2 ตัวแปร หรือ 2 คำที่มีความสอดคล้องสัมพันธ์กัน เพื่อที่จะนำไปใช้ในการสืบค้นข้อมูลงานวิจัยต่างๆ ซึ่งผลลัพธ์จะปรากฏตาม Keyword (คำหลัก) ที่ท่านกำหนดในการสืบค้น ท่านต้องตีความให้ชัดเจนว่าตัวแปรที่ชื่อยาวนี้มี Keyword หลักคืออะไร อย่างตัวอย่างที่ยกไปข้างต้นคือ “ความต้องการต่อการพัฒนา” – Keyword หลัก คือ “ความต้องการ” – Keyword รอง คือ “การพัฒนา” ท่านต้องแยกเป็น Keyword หลัก และ […]
31 แหล่งฐานข้อมูลงานวิจัยวิทยานิพนธ์ !
1. คลังปัญญาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Chulalongkorn University Intellectual Repository (CUIR) 2. คลังความรู้ดิจิทัล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ขอบคุณข้อมูลจาก Mr.Chalermdej Taterian) 3. ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasat University Theses 4. ฐานข้อมูลงานวิจัย มหาวิทยาลัยนเรศวร NU Digital Repository http://nuir.lib.nu.ac.th/dspace 5. ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต (DPU e-Theses) 6. ฐานข้อมูล Dspace มหาวิทยาลัยศิลปากร http://www.graduate.su.ac.th/dspace/index.php 7. คลังปัญญามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ PSU Knowledge Bank มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ http://kb.psu.ac.th/psukb 8. Thai Digital Collection (TDC) 9. Research Gateway Common Service สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) […]
8 เทคนิคเขียนเรียงความให้ปังเร็วและถูกหลักอย่างไม่น่าเชื่อ !
“การเขียนเรียงความ” ถือเป็นหนึ่งในทักษะด้านภาษาที่ทุกคนควรมี เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นการขอทุนสนับสนุน การสมัครเรียนในต่างประเทศ การสัมภาษณ์งาน และแม้แต่การเขียนงานวิทยานิพนธ์ (Thesis) สารนิพนธ์/การค้นคว้าอิสระ (Independent Study) หรือบทความวิจัยก็ล้วนแต่ต้องใช้ทักษะนี้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม เราเข้าใจดีว่าการเขียนอะไรสักอย่างไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากจะต้องทำให้ถูกต้องตามหลักภาษาแล้ว บางครั้งเราอาจความคิดติดตัน ทำให้งานออกมาล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็นจนนำไปสู่ความหงุดหงิดใจ ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้คัดตัวช่วยเป็นเทคนิคเจ๋งๆกับ 8 เทคนิค เขียนเรียงความให้ปัง เร็ว และถูกหลักอย่างไม่น่าเชื่อ ! แถมยังนำไปใช้ได้อย่างหลากหลายอีกด้วย 1. เริ่มต้นเขียนเรียงความให้เร็วขึ้นกว่าที่ตั้งใจไว จะช่วยลดความวิตกกังวล การผัดวันประกันพรุ่ง และช่วยให้คุณมีเวลาในการพัฒนาความคิดของคุณได้มากขึ้น 2. เก็บคำถามของเรียงความไว้ในใจ อย่าลืมติดตามคำถาม หรืองานของคุณ โดยการเก็บสำเนาไว้ในขณะที่คุณร่าง และแก้ไข และกำลังหาข้อโต้แย้งเกี่ยวกับงานของตัวเอง 3. อย่าพยายามที่จะเขียงเรียงความตั้งแต่ต้นจนจบ คุณควรเริ่มต้นเรียงความด้วยสิ่งที่คุณพร้อมที่จะเขียน ไม่ว่าจะเป็นแผนเรียงความ ประโยคสักสองประโยค คุณสามารถเริ่มต้นจากเนื้อเรื่องได้โดยการเขียนทีละย่อหน้า 4. เขียนบทนำและสรุปหลังจากที่คุณเขียนเนื้อหาเรียบร้อยแล้ว เมื่อคุณรู้ว่าเรียงความของคุณเกี่ยวกับเรื่องอะไรแล้ว จากนั้นคุณถึงจะสามารถเขียนบทนำ และบทสรุปจากเรื่องนั้นได้ 5. ใช้สัญลักษณ์ในการเขียนของคุณ สัญญาณในเรียงความของคุณจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถทำตามคำสั่ง และไหลไปตามไอเดียของคุณได้ 6. รวบรวมข้อมูลและรายละเอียดของงานเขียนคุณอย่างรอบคอบ เมื่อคุณเขียนเรียงความ […]
6 เทคนิคเตรียมสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์ (Defense Thesis)
ด่านหินมหาโหดอีกด่านที่เหล่าบรรดานิสิตต่างต้องผ่านด่านนี้ไปก็คือ ช่วงของการสอบเค้าโครงวิจัยนี่ละค่ะ ถือว่าเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่นิสิตนักศึกษา ต้องเตรียมความพร้อมอย่างดีเพื่อสอบเค้าโครงวิจัย (Defense Thesis) และการสอบปากเปล่าวิจัย (Oral Thesis) เพราะถือว่าเป็นขั้นตอนที่ยากกว่าขั้นตอนอื่นเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะอะไรนั่นหรือคะ? เพราะเป็นการนำเสนอผลงานวิจัยของ นิสิต นักศึกษาเอง ซึ่งจะ “รอด” หรือ “ร่วง” ก็ตรงนี้เลย เนื่องจาก “ผู้วิจัยเป็นผู้รู้ที่สุด” ซึ่งถ้า นิสิต นักศึกษาทำด้วยตนเอง ก็ไม่น่าจะมีอะไรหนักใจเท่าไร เพราะการสอบเค้าโครงวิจัย(Defense Thesis) และการสอบปากเปล่าวิจัย (Oral Thesis)เหมือนกับการทบทวนสิ่งที่นิสิต นักศึกษาได้เขียนและลงมือ ทำด้วยตนเอง วันนี้เรามี 6 เทคนิค เตรียมสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์ (Defense Thesis) 1. นักศึกษาต้องเตรียมใจในการแก้ไขงานอีกครั้ง นักศึกษาต้องเตรียมใจในการแก้ไขงานอีกครั้งหนึ่งโดยยึดคำวิพากษ์และข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสอบสวนเค้าโครงวิจัย (Defense Thesis) ถ้านิสิต นักศึกษาทำงานด้วยความซื่อสัตย์และเอาใจใส่มาตลอด ก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าเค้าโครงวิจัยที่ส่งในครั้งนี้เป็นเล่มเค้าโครงวิจัยที่สมบูรณ์เลยจะต้องปรับแก้อีกครั้ง 2. นักศึกษาควรมาถึงห้องสอบล่วงหน้า นักศึกษาควรมาถึงห้องสอบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 นาที และตรวจดูความเรียบร้อย เช่น เครื่องดื่มหรืออาหารว่างมีหรือไม่ดูสภาพห้องสอบว่าที่นั่งของตนและที่นั่งของคณะกรรมการอยู่ตรงไหน […]
ความสำคัญของการทำวิจัย 5 ข้อ ที่คุณไม่เคยรู้
ความสำคัญของการทำวิจัยนั่นเรียบง่ายกว่าที่เราส่วนใหญ่คิดและหัวใจหลักของการทำวิจัยคือ “วิจัยเพื่อดับทุกข์” ก่อนอื่นเลยเราต้องลองนึกย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยปีก่อนหลายๆสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้จากอดีตจนถึงปัจจุบันนวัตกรรมใหม่ๆเทคโนโลยีใหม่ๆที่เราได้เห็นได้ใช้ในทุกวันนี้มันก็เกิดมาจากความสงสัยของใครสักคนที่รู้จักการตั้งคำถามแล้วนำไปสู่การคิดการค้นหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนได้ข้อสรุปที่ดีที่สุดในตอนนั้นหรือที่เราเรียกว่าการทำวิจัยนั่นแหละค่ะถ้าเทียบกับทางพระพุทธศาสนางานวิจัยก็เปรียบเสมือน “หนทางดับทุกข์” ทำแล้วช่วยให้คลายปัญหาคลายข้อสงสัยและสุดท้ายเมื่อปัญหาถูกแก้สิ่งใหม่ๆก็จะสามารถเกิดขึ้นได้ในที่สุด แล้วเคยสงสัยค่ะว่าภาครัฐจะออกนโยบายทางการศึกษาหรือทำวิจัยไปเพื่ออะไรทำไมต้องทำและวันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยไปพร้อมๆกันกับความสำคัญของการทำวิจัย 5 ข้อที่คุณไม่เคยรู้ดังนี้ 1. ทำวิจัยเพื่อตอบข้อสงสัยของเรา ในชีวิตปกติของเราได้ผ่านการทำวิจัยกันมาแล้วไม่ว่าจะซื้อบ้านซื้อของแต่งงานซื้อรถล้วนแล้วผ่านการทำการสืบค้นหาทางเลือกมาแล้วทั้งนั้นแถมยังมีการเปรียบเทียบต่างๆเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ดีที่สุดสำหรับตัวเราเราทำวิจัยเพื่อตอบสนองความสงสัยใคร่รู้ของเรานั่นเอง 2. ทำวิจัยเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ต้องยอมรับค่ะว่าปัจจุบันนี้มีวิทยาการใหม่ๆเพิ่มพูนเกิดขึ้นเยอะมากทั้งด้านทฤษฎีและปฎิบัติดังนั้นจึงต้องมีการทำการวิจัยเพื่อเกิดความเข้าใจปัญหาเข้าใจพฤติกรรมมนุษย์จะช่วยให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและยุติธรรมขึ้นแถมยังทำให้เราเข้าใจและทำนายปรากฎการณ์และพฤติกรรมต่างๆได้อีก 3. ทำวิจัยเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ กระตุ้นให้มีเหตุผลรู้จักคิดและค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมเนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์มีความอยากรู้อยากเห็นอยากทราบเหตุผลและปรากฏการณ์ของสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นจึงทำการวิจัยเพื่อค้นหาคำตอบสิ่งใดที่พอรู้อยู่บ้างก็ทำให้รู้และเข้าใจดียิ่งขึ้นเป็นการเพิ่มพูนวิทยาการให้กว้างขวางลึกซึ้ง 4. ทำวิจัยเพื่อแก้ปัญหา เพื่อนำผลที่ได้จากการวิจัยไปวางแผนหรือกำหนดวิธีการในการควบคุมสิ่งต่างๆให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเช่นการวิจัยหาสาเหตุที่ทำให้ผลการเรียนของนักเรียนตกต่างเมื่อพบสาเหตุก็สามารถหาทางควบคุมหรือป้องกันได้ 5. ทำวิจัยเกิดสิ่งใหม่ๆ เป็นการศึกษาค้นคว้าเพื่อให้เกิดความรู้ใหม่สิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีใครศึกษามาก่อนแล้วนำมาพัฒนาตอบสนองให้ชีวิตมนุษย์ดีขึ้นอย่างเช่นคอมพิวเตอร์โทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ทซึ่งเกิดจากแนวคิดนำเอาเทคโนโลยีมาผสมผสานรวมกันจนมีให้เราได้ติดต่อสื่อสารกันอย่างทุกวันนี้และทั้งหมดนี้ก็คือประโยชน์ของการวิจัยคงจะพอหายสงสัยกันแล้วใช่ไหมค่ะเมื่อหายสงสัยแล้วมาเริ่มผจญภัยทำความเข้าใจกับงานวิจัยกันต่อเลยค่ะ และทั้งหมดนี้ก็คือความสำคัญของการทำวิจัย 5 ข้อที่คุณไม่เคยรู้คงจะพอหายสงสัยกันแล้วใช่ไหมค่ะถ้าเห็นว่าเป็นประโยชน์อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆด้วยนะคะ
6 ประโยชน์ที่ได้จากการว่าจ้างทำวิจัย
“หากจ้างทำงานวิจัย แล้วผู้วิจัยจะได้ประโยชน์อะไรจากงานวิจัย?” เป็นข้อคำถามที่ผู้วิจัย หรือผู้เรียนหลายๆ ท่าน กำลังลังเลว่า ถ้าหากตัดสินใจว่าจ้างบริษัททำงานวิจัย งานวิทยานิพนธ์ หรืองานดุษฎีนิพนธ์ นั้น ผู้วิจัยหรือผู้เรียนจะได้อะไรจากการว่าจ้างทำงานวิจัยบ้าง… ซึ่งในบทความต่อไปนี้ ทางเรามี 6 ประโยชน์ที่ได้ จากการว่าจ้างทำวิจัย มาแนะนำให้คุณเป็นแนวทางเพื่อใช้ในการตัดสินใจ สำหรับการว่าจ้างทำงานวิจัยดังนี้ 1. ช่วยลดต้นทุนการทำงานวิจัย เนื่องด้วย บริษัทรับทำวิจัยนั้นมีทีมงานที่มีความชำนาญเป็นมืออาชีพ รวมถึงเครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการคำนวณ วิเคราะห์แปลผลข้อมูลที่มีประสิทธิภาพในการแสดงผลที่เที่ยงตรง มีแหล่งฐานข้อมูลที่ใช้ในการศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และด้วยประสบการณ์ในด้านการทำงานวิจัย ทำให้สามารถวางแผนในการคำนวณประเมินค่าใช้จ่ายสำหรับการทำงานวิจัยได้อย่างรัดกุม ช่วยลดภาระในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการทำงานวิจัย ช่วยในการกำหนดต้นทุน หรืองบประมาณที่ต้องการใช้ในการทำงานวิจัยได้อย่างชัดเจน ในส่วนรายจ่ายที่ยิบย่อยต่างๆ รวมถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกิดจากความผิดพลาดจากการทำงานวิจัยของคุณให้น้อยที่สุด 2. มีที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลงานวิจัย เพราะการทำงานวิจัยเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และมีความซับซ้อนมาก มันจะดีแค่ไหนหากคุณมีผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ด้านการทำวิจัย คอยให้คำปรึกษาในการทำงานวิจัยให้กับคุณ ช่วยให้คุณทำงานวิจัยเสร็จทันตามเวลาที่กำหนด และมีความถูกต้องตามหลักการวิจัย ฉะนั้นในการว่าจ้างบริษัทรับทำงานวิจัยนั้น คุณจะได้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์ในการทำงานวิจัย เริ่มตั้งแต่การช่วยเขียนโครงร่างงานวิจัย สืบค้นหางานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่สอดคล้องกับตัวแปรที่ท่านทำการศึกษา ค้นหาแนวคิดและทฤษฏีที่เกี่ยวข้อง หรือวิเคราะห์เครื่องมือที่ต้องใช้สำหรับการทำงานวิจัย เป็นต้น มีการวางแผนการทำงานที่เป็นระบบระเบียบ ตามหลักวิชาการและระเบียบวิธีวิจัย มีประสิทธิภาพ มีความน่าเชื่อถือ และงานเสร็จทันตามกำหนดเวลา 3. ช่วยในการจัดสรรและบริหารเวลา ในการว่าจ้างทำงานวิจัยจะช่วยให้คุณสามารถบริหารเวลาและประหยัดเวลาในการทำงานวิจัยได้ดีขึ้น […]