เหตุผลที่ควรและไม่ควรเรียนต่อปริญญาโท

ไหน ใครอยากเรียนต่อปริญญาโทบ้าง!? หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความคิดที่อยากจะเรียนต่อปริญญาโท แต่ยังลังเลอยู่ว่าควรเรียนต่อดีไหม บทความที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้นค่ะ เพราะเราจะมาแชร์ เหตุผลที่ควรและไม่ควรเรียนต่อปริญญาโท

ทำไมถึงควรเรียนต่อปริญญาโท?

เหตุผลที่ควรต่อปริญญาโท: เพิ่มความรู้เฉพาะทาง

    นี่เป็นเหตุผลหลักๆ ในการเรียนต่อปริญญาโทของใครหลายคนเลย เพราะหลังจากทำงาน หรือเรียนจบปริญญาตรีแล้ว หลายคนก็รู้สึกว่าอยากทำความเข้าใจศาสตร์นั้นในลึกซึ้งยิ่งขึ้น การเรียนต่อปริญญาโทจึงเป็นทางเลือกที่ไม่เลว

เหตุผลที่ควรต่อปริญญาโท: เพิ่มทักษะชีวิต

    การเรียนปริญญาโทนั้นต้องนำอาศัยทักษะการจัดการสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งเวลาเรียน ศึกษาข้อมูล วิจัย ฯลฯ ทำให้ผู้เรียนต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ยิ่งถ้าไปเรียนในต่างประเทศ  การเรียนปริญญาโทจะค่อยๆ เทรนเราให้กลายเป็นคนที่ต้องพึ่งพาตัวเองได้ ต้องฝึกใช้ทักษะการสื่อสาร 

หลายครั้งก็จะฝึกให้เราต้องมีทักษะการตัดสินใจที่รวดเร็วและต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้

เหตุผลที่ควรต่อปริญญาโท: โอกาสเปลี่ยนสายงาน

    มีหลายคนที่รู้ว่าสิ่งที่เรียนตอนปริญญาตรีนั้นไม่ใช่ตัวเองเลย ปริญญาโท (บางสาขา) เกิดมาเพื่อคนประเภทนี้เช่นกัน เพราะเปิดโอกาสให้คนที่เพิ่งหาตัวเองเจอกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง 

เหตุผลที่ควรต่อปริญญาโท: โอกาสในการเรียนมหาลัยใหม่ประเทศใหม่ๆ

    เรียนปริญญาโทเพื่อมหาลัย/ประเทศในฝัน! ข้อนี้ไม่เกินจริงเลย ขอยกตัวอย่างง่ายๆ หลายคนอยากไปเรียนต่ออเมริกามาก แต่ตอนปริญญาตรีก็เรียนที่ไทยนี่แหละ ดังนั้นปริญญาโทจึงเป็นโอกาสอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้เราได้ไปใช้ชีวิตในประเทศ หรือเมืองที่อยากไป

เหตุผลที่ควรต่อปริญญาโท: ช่วยเตรียมพร้อมในการเรียนปริญญาเอก

    สำหรับคนที่อยากจะเรียนต่อให้เจาะลึก เอาให้เชี่ยวชาญด้านนั้นไปเลย หรือใครที่อยากเป็นอาจารย์ที่อยากเรียนต่อปริญญาเอก การเรียนปริญญาโทคือทางผ่านที่ต้องเจอ นอกจากจะช่วยเตรียมตัวให้รับมือกับการเรียนปริญญาเอกแล้ว การเรียนปริญญาโทยังเป็นเส้นทางสู่การเรียนที่ลึกซึ้งขึ้น

เหตุผลที่ควรต่อปริญญาโท: เตรียมพร้อมสำหรับโลกการทำงาน

    ในการเรียนปริญญาโทต่างจากเรียนปริญญาตรีที่เพื่อนร่วมชั้นและตัวผู้เรียนจะไม่ใช่นักเรียน แต่เป็นผู้จัย เป็นเพื่อนร่วมชั้นที่ต้องเรียนรู้จากกันและกัน ระดับความเป็นมืออาชีพจะมากกว่าตอนเรียนปริญญาตรี ทำให้การเรียนปริญญาโทนั้นช่วยเตรียมความพร้อมให้เราเห็นว่าโลกของการทำงานในอนาคต ในสายงานที่เราอยากเรียนมีอะไรบ้าง 

เหตุผลที่ควรต่อปริญญาโท: เพิ่มโอกาสการจ้างงาน

    เป็นอีกข้อที่สำคัญมากๆ สำหรับคนที่คิดอยากเรียนต่อป. โท แน่นอนอยู่แล้วว่าการเรียนต่อป.โท จะช่วยเพิ่มแต้มต่อให้กับเราในสาขาอาชีพนั้นๆ แต่อีกข้อที่เป็นข้อได้เปรียบเลยก็คือ การเรียนปริญญาโทจะเป็นประตูเข้าสู่อาชีพนั้นๆ ด้วย อธิบายสั้นๆ คือ ด้วยเพื่อนร่วมชั้น อาจารย์ หรือแม้กระทั่งอาจารย์ที่มาบรรยายชั่วคราวก็อาจเป็นผู้ชักนำเราไปสู่การทำงานในอนาคตได้ 

***พูดแบบสั้นๆ ก็คือ เพิ่มคอนเน็คชั่นสู่วงการทำงานนั่นเอง***

    พูดถึงด้านดีมากแล้ว ขอพูดถึงข้อเสียหรือเหตุผลที่ไม่ควรเรียนบ้าง หากพูดลอยๆ ขึ้นมาหลายคนคงคิดว่าเรียนปริญญาโทนั้นต้องดีอยู่แล้ว แต่ทุกอย่างมี 2 ด้านเสมอ 

ทำไมถึงไม่ควรเรียนต่อปริญญาโท?

เหตุผลที่ไม่ควรเรียนต่อปริญญาโท: ค่าใช้จ่าย

    เรื่องนี้หนีไม่พ้นจริงๆ ยิ่งไปเรียนต่อต่างประเทศก็จะยิ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นนักเรียนปริญญาโทหลายคนจึงต้องทำงานพิเศษเพิ่มเติมบ้าง หรือหาทุนสนับสนุน เพื่อเซฟค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าที่พัก ค่ากินอยู่ ค่าเดินทาง ค่าประกัน ฯลฯ

เหตุผลที่ไม่ควรเรียนต่อปริญญาโท: คอร์สอาจไม่เป็นไปตามที่คิด

    ถ้าโชคดี การเรียนอาจจะผ่านไปอย่างราบรื่น อาจารย์น่ารัก เพื่อนร่วมชั้นให้ความช่วยเหลือดี แต่หลายครั้งทุกอย่างก็ไม่ง่ายเช่นนั้น ถ้าเจออาจารย์ที่โหดหินมาก เข้มงวดสุด หรือเจอเนื้อหาที่อัดแน่นเต็มไปด้วยข้อมูล ยิ่งถ้าไปเรียนต่างประเทศก็ต้องเจอสภาพแวดล้อมแปลกใหม่ที่ต้องปรับตัวอีก ไหนจะระบบการสอนที่ต่างไปจากที่เคยเรียน ฯลฯ เรื่องเหล่านี้อาจทำให้นักเรียนปริญญาโทหลายคนรู้สึกท้อได้ง่ายๆ 

    ถ้าไม่อยากเจอความรู้สึกแบบนี้ ต้องอ่านรายละเอียดคอร์สอย่างรอบคอบก่อน ถามศิษย์เก่า และเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

เหตุผลที่ไม่ควรเรียนต่อปริญญาโท: งานเยอะ

    คิดว่าคงไม่ต้องอธิบายข้อนี้มาก ไปถามนักเรียนปริญญาโทคนไหนก็จะบอกว่างานเยอะ ต้องปั่นเปเปอร์ ทำวิจัย หรือไม่ก็เตรียมตัวพรีเซนต์งาน 

เหตุผลที่ไม่ควรเรียนต่อปริญญาโท: เวลาเข้าสังคมน้อยลง

    เป็นผลพวงมาจากข้อที่แล้ว แน่นอนว่าการเรียนปริญญาโททำให้ได้พบเพื่อนใหม่ๆ ก็จริง แต่หลายครั้งเราก็ต้องแยกย้ายกันไปทำงานตามความสนใจของตัวเอง นี่ทำให้การเรียนป.โท เป็นอะไรที่โดดเดี่ยวได้เหมือนกัน 

Credit: https://bit.ly/3LhgFee